ต่อจากตอนที่แล้ว กานดาก็เล่นงานดราก้อนเฮดสี่หัวแบบรวดเดียว
ไม่นานก็จัดการไปได้ถึง 3 หัวเหลือเพียงหัวธาตุน้ำเพียงธาตุเดียวเท่านั้น
พอกานดาเห็นว่าเหลือธาตุเดียวก็เลยจัดการปิดฉากด้วยการเปิดกล่องสายรุ้ง
เรียกใช้คาถาสายฟ้าจัดการดราก้อนเฮดหัวสุดท้ายลง
เมื่อจัดการหัวสุดท้ายได้แล้วกานดาก็บอกปิ่นให้ไปทำลายผนึกสุดท้ายกันปิ่นก็พยักหน้าตกลง
เมื่อผนึกสุดท้ายถูกทำลายลงก็ถึงเวลาที่จะได้สู้กับบอสแล้ว
และตอนนั้นเองผืนดินก็สั่นไหวและพังลง ทั้งกานดา
และปิ่นต่างก็ตกลงสู่เบื้องล่างทันที
แต่ปิ่นที่รู้อยู่แล้วก็เลยบอกกานดาว่าเมื่อทำลายผนึกทั้งสี่
ดันเจี้ยนส่วนในก็จะพังลงอัตโนมัติทำให้ตกลงไปที่ใจกลางดันเจี้ยน
และบอสของดันเจี้ยนก็จะปรากฎขึ้น
กานดาที่ฟังปิ่นบอกแล้วก็ตกใจนิดหน่อยที่พึ่งปราบดราก้อนเฮดได้
ก็มาเจอบอสต่อเลยแบบไม่ให้พัก พอมาถึงพื้นปิ่นก็บอกกานดาว่าบอสนั้นโผล่มาแล้ว
กานดาก็เลยตกใจรีบหันซ้ายหันขวาหาใหญ่ว่าบอสที่ว่านั้นอยู่ไหน
ปิ่นก็เลยบอกว่าอยู่ที่นี่กานดาก็เลยรีบหันไปมองแล้วปิ่นก็บอกกานดาว่า..
ปิ่น: อยู่ตรงหน้าเธอนี่ไง
กานดาที่มองก็เห็นแต่ปิ่นที่อยู่ตรงหน้าเขาแถมที่ตัวปิ่นก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป
ที่ปลายผมมีลวดลายดอกไม้ปรากฎออกมา กานดาเจอแบบนี้ก็เริ่มช็อคก็พูดกับปิ่นว่า..
กานดา: เดี๋ยวดิปิ่น
กานดา: อย่าล้อเล่นอะไรแบบนี้ได้ป่าว
กานดา: ล้อเล่นกันยังงี้ถ้าบอสโผล่มา...
ปิ่น: ฉันพูดจริง
ปิ่น: ฉันนี่แหละ
ปิ่น: คือบอสของที่นี่!!!
ปิ่น: ฉันคือ "มหาภูตแห่งความมืด"
ปิ่นก็พูดให้กานดานึกถึงตอนที่มังกรพูดเอาไว้ซึ่งนั้นก็คือเธอ
และเธอก็หลอกให้กานดามาทำลายผนึก
ที่ผ่านมานั้นไม่มีใครจัดการบอสเฝ้าผนึกทั้งสี่ได้เลยกานดาจึงเป็นคนแรกที่มาถึงที่นี่
และจุดประสงค์ของกานดาก็คือการเคลียร์ดันเจี้ยนด้วย
แต่พอปิ่นพูดถึงตรงนี้กานดาก็ไม่อยากฟังอีกปิ่นจึงรู้ว่า
ตอนนี้กานดาทั้งสับสนทั้งโกรธที่กลายเป็นแบบนี้แต่ปิ่นก็คิดว่าไม่แปลกเลย
ปิ่นก็พูดต่อว่าเธอทำอะไรผนึกทั้งสี่ไม่ได้ต้องให้คนที่ไม่ใช่ภูตเป็นผู้ทำลายเท่านั้น
เธอก็เลยต้องหลอกล่อให้นักเดินทางเข้ามาทำลายผนึกให้ และถ้าเธอบอกกานดา
แต่แรกปิ่นก็รู้ว่ากานดาไม่มีทางมาเด็ดขาด ถึงตอนนี้ปิ่นจะพูดอะไรไปกานดาก็ไม่ฟัง
และไม่สนใจอีกแล้วและคิดว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่เขาจะอยู่ที่นี่
และการที่ต้องบอกชอบใครก็ต้องใช้ความกล้าแต่กานดาก็พูดไม่ออก
ถึงตรงนี้ปิ่นก็ย้ำอีกครั้งว่ากานดานั้นเป็นเพลเยอร์ส่วนเธอเป็นบอส
ทางเลือกจึงมีแค่สองทางคือกานดาต้องสู้กับเธอหรือปล่อยให้เธอฆ่า กานดาก็บอกว่า...
กานดา: ไม่ต้องห่วงหรอกปื่น
กานดา: ถ้าต้องสู้กันไม่ว่าจะเป็นใครฉันก็สู้เต็มที่เสมอ
กานดา: (ความในใจของฉัน)
กานดา: (ไว้การต่อสู้นี้ก็แล้วกัน)
ปิ่น: ขอบใจนะกานดา
ปิ่น: ที่ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง
แล้วปิ่นก็เริ่มตั้งท่าสู้โดยคราวนี้เธอก็จะใช้อาวุธของเธอด้วยนั้นคือ
ดาบภูตทวินแฟรี่ (RARE 5 ดาว) เป็นดาบคู่ที่มีสิ่งที่คล้ายออร่าสีดำใส
ลอยออกมาจากใบดาบตลอดเวลา
เมื่อตกลงพร้อมจะสู้แล้วปิ่นก็เริ่มพุ่งเข้าไปหากานดาโจมตีกานดาก่อนแต่กานดา
ก็กระโดดหลบพร้อมกับใช้หีบกระโหลกเรียกอาวุธออกมาเป็น FORCE SWORD
พลังโจมตี 560 ดาวยาวอันทรงพลังที่เพิ่มพลังโจมตีได้ชั่วขณะ
กานดาหยิบดาบกลางอากาศฟาดลงใส่ปิ่นตรงๆแต่ปิ่นก็ป้องกันไว้ได้
ขณะที่ปิ่นใช้ดาบหนึ่งป้องกันอีกดาบของปิ่นก็รวบพลังและสบัดออกมา
เป็นคลื่นพลังรูปจันทร์เสี้ยวใส่กานดา กานดาก็ยังคงหลบได้
แต่ก็ไม่พ้นทั้งหมดเฉียดขาไปจนได้แผลไปเหมือนกัน
จากนั้นทั้งสองคนก็ต่างดวลประชิดตัวด้วยเพลงดาบแบบไม่ยั้งสูสี่กัน
จนทั้งคู่ต้องถอยออกมาตั้งหลักพร้อมกันเลย
แต่เมื่อทิ้งระยะห่างกันแบบนี้ก็เข้าทางปิ่นๆจึงใช้คลื่นพลังรูปเสี้ยวพระจันทร์ใส่กานดาอีกครั้ง
ครั้งนี้กานดาเอาดาบป้องกันไว้ตรงๆเลยแต่พลังคลื่นก็ไม่สลายไปง่ายๆ
ขณะที่กานดากำลังรับมืออยู่นั้นปิ่นก็ยังคงกระหนำซ้ำต่อด้วยพลังคลื่นลูกที่สอง
จนทำเอากานดาเริ่มกระเด็นถอยไปเรื่อยๆ กานดาก็คิดเลยว่าพลังคลื่นนี้รับมือยาก
เพราะถ้าหลบก็จะโดนรัศมีของมันเฉือนตัวแต่ถ้าป้องกันก็จะถูกผลักกระเด็น
จังหวะที่กานดายังคงรับมือกับพลังคลื่นทั้งสองลูกตอนนั้นปิ่นก็ใช้แรงจากการ
สะบัดปล่อยคลื่นลูกที่สองม้วนตัวกลางอากาศอีกรอบและสะบัดออกมา
เป็นคลื่นพลังลูกใหญ่โจมตีใส่กานดา
กานดาที่เจอพลังลูกใหญ่ตามมาสมทบอีกก็ตกใจ พอพลังคลื่นหลุดพ้นพื้นที่
ออกไปได้กานดาก็เกือบจะตกพื้นไปแล้วแต่โชคดีที่ยังเกาะเอาไว้ได้อยู่
และตอนนั้นกานดาก็เริ่มสังเกตว่าพื้นที่ยืนอยู่นี้กำลังเคลื่อนที่ขึ้นเรื่อยๆ
จบตอน
